การบริหารโครงการก่อสร้างมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการจัดการและการบริหารงานก่อสร้างทั้งหมด เพื่อให้บรรลุผลงานที่ได้รับมอบหมายตามสัญญา อีกทั้งยังช่วยลดความสูญเสียและความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับวัสดุ ตลอดจนควบคุมและตรวจสอบงานให้เป็นไปตามข้อกำหนดที่กำหนดและตกลงไว้ ดังนั้น การบริหารโครงการโดยทั่วไปจึงแบ่งออกเป็น 3 กระบวนการแยก ได้แก่ การวางแผนโครงการ การเตรียมความพร้อม และการลงมือปฏิบัติ

Project Planning – รวมถึงการวางแผนโดยรวม โครงสร้างองค์กร ระยะเวลาการดำเนินงาน การจัดทำงบประมาณ การรายงาน การบัญชี การจัดเอกสาร การประสานงาน การควบคุมและตรวจสอบงาน และการตัดสินใจ เกี่ยวกับการวางแผนงานและการออกแบบการดำเนินการให้แล้วเสร็จก็มีรูปแบบและวิธีการที่หลากหลาย ก่อนที่จะทราบแน่ชัดว่าจะตัดสินใจอะไร—ก่อนหรือหลัง ฯลฯ ก่อนที่จะปฏิบัติตามแผนแม่บทอย่างเคร่งครัด สิ่งนี้ช่วยอำนวยความสะดวกในการดำเนินงานและสร้างผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังช่วยให้การบริหารโครงการจัดการทรัพยากรทั้งหมดที่มีอยู่ได้อย่างมีประสิทธิผลตามหลักข้อตกลงที่ตั้งไว้แต่ต้น รวมถึงช่วยให้ผู้บริหารมองเห็นและคาดการณ์ปัญหาได้อย่างแม่นยำ

อีกหนึ่งวิธีการบริหารโครงการก่อสร้างคือวิธีเส้นทางวิกฤต (Critical Path Method – CPM) ซึ่งได้ถูกนำไปใช้ในอุตสาหกรรมบริหารไซต์งานก่อสร้างบางแห่งแล้ว เพราะให้ประโยชน์ค่อนข้างมาก เช่น แสดงความสัมพันธ์ของงานแต่ละงานได้อย่างชัดเจน ช่วยให้ผู้จัดการโครงการหรือผู้บริหารอื่นๆ สามารถระบุได้ว่างานใดอยู่ในสถานการณ์วิกฤต ทั้งด้านระยะเวลาและกิจกรรมที่จำเป็นต้องทำให้แล้วเสร็จ เป็นต้น อย่างไรก็ตาม วิธีนี้ยังไม่เป็นที่นิยมมากนัก เนื่องจากยังมีหลายประเด็นที่ต้องได้รับการพิจารณาใหม่เพื่อให้ได้ผลการบริหารงานและการคาดการณ์ระยะเวลาที่มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ถึงแม้จะเริ่มเป็นที่รู้จักขึ้นบ้างแล้วก็ตาม